ทำไมเงียบไป จี้ปมซุกหุ้น ท้าโอ๊ครีบแจง

"นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต" โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ยก 5 พฤติกรรม อ้างเป็นการกลับกลอกของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สวน "โอ๊ค พานทองแท้" พร้อมไล่บี้ ให้แจงซื้อหุ้นปั่นหนี้ลม โอนเงินให้แม่...

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย คนในรัฐบาล และนายพานทองแท้ ชินวัตร ออกมาปฏิเสธถึงกรณีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาเปิดเผยว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ส่งคนมาเจรจาให้พรรคประชาธิปัตย์เลิกคัดค้านการแก้ไขรัฐธรรมนูญและร่าง พ.ร.บ.ปรองดองว่า เป็นการแสดงถึงความหวั่นไหว เพราะการเปิดเผยของนายสุเทพ ทำให้คนเสื้อแดงเห็นธาตุแท้ พ.ต.ท.ทักษิณ ว่าเป็นเพียงพ่อค้าที่ต้องการให้ตนเองพ้นผิดเท่านั้น จึงพยายามให้นายสุเทพ เปิดเผยชื่อคนกลางที่มาเจรจา

ทั้งนี้อยากให้คนเสื้อแดงพิจารณาย้อนหลังว่า ใครมีพฤติกรรมที่พูดกลับไปกลับมา ระหว่าง พ.ต.ท.ทักษิณและนายสุเทพ โดยที่ผ่านมา นายสุเทพ พูดกี่ทีก็เหมือนเดิมทุกครั้ง ต่างจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ที่มีพฤติกรรมกลับไปกลับมาอย่างน้อย 5 กรณี คือ 1.เคยพูดว่าเสียงปืนแตกจะกลับมาแต่ก็ไม่มา 2.สละเรือแดงขอนั่งรถขึ้นเขาเพื่อปรองดอง 3.มีการพูดเรื่องการเจรจากับอำมาตย์ แต่เมื่อนายกรัฐมนตรี พบ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี ก็มีท่าทีอ่อนลง ก่อนที่จะกลับมามีท่าทีแข็งกร้าวเมื่อไม่ได้ตามที่ตัวเองต้องการ 4.โกหกเรื่องทรัพย์สิน 6.4 หมื่นล้านแต่มีจริงสองหมื่นกว่าล้านในการยื่นบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช.และ 5.ที่บอกว่าไม่เล่นการเมือง แค่อยากกลับประเทศ แต่ล่าสุดบอกถ้าเป็นนายกฯ จะทำเหมือนเดิม พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้ ตนรู้ว่าคนเสื้อแดงเจ็บปวดแต่นี่คือความจริง ถ้าไม่ยอมรับความจริงก็จะถูกหลอกใช้ตลอดไป จึงต้องตั้งใจฟัง และดูว่าใครมีความน่าเชื่อถือด้านคำพูดมากกว่ากัน และใครมีประวัติพูดจากลับกลอก

นายชวนนท์ กล่าวต่อว่า ขอเรียกร้องให้นายพานทองแท้ ชี้แจงการซื้อหุ้นธนาคารทหารไทย ที่ยังไม่ได้รับคำตอบว่า การที่นายพานทองแท้ ซื้อหุ้นธนาคารทหารไทยมูลค่า 1,500 ล้าน แต่ทำสัญญากู้เงิน กับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ มารดา ถึง 4,500 ล้าน เพื่อทำหนี้ลมโอนเงินปันผลจากการเป็นนอมินีถือหุ้นชินคอร์ป ให้แม่ใช่หรือไม่ และหาก พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเจ้าของทรัพย์สินทั้งหมด เท่ากับนายพานทองแท้ นางพินทองทา นายบรรณพจน์ ดามาพงศ์ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้การเท็จต่อศาล เพราะคนทั้งหมดระบุว่าตัวเองเป็นเจ้าของหุ้นชินคอร์ป

โดยนายพานทองแท้ จะมีส่วนในทรัพย์สิน 2.5 หมื่นล้าน นางพินทองทา 3 หมื่นล้าน นายกรัฐมนตรี 1,000 ล้าน และนายบรรณพจน์ 2 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ยังเห็นว่าความพยายามที่จะออกมาปกป้อง พ.ต.ท.ทักษิณ ของนายนพดล เป็นพฤติกรรม "บ่าวฆ่านาย" เพราะมีการยอมรับว่ากฎหมายห้ามไม่ให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถือหุ้น จึงมีการโอนไปให้บุตร ยิ่งยืนยันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ มีเจตนาซุกหุ้นที่ตัวเองเป็นเจ้าของไว้ในชื่อของคนในครอบครัวจริง และการที่นายนพดล ยอมรับว่าทรัพย์สินของ พ.ต.ท.ทักษิณ ลดลงจากปี 2537 ที่มี 6.4 หมื่นล้านเหลือ 2 หมื่นกว่าล้าน ยิ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าทรัพย์สิน ที่เพิ่มขึ้นหลังดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี เกิดจากการทุจริตเชิงนโยบาย ตามที่ศาลฎีกาได้มีคำพิพากษายึดทรัพย์.

ข่าว