ซัลโวเผาขนหนุ่มทำเฟอร์นิเจอร์ คาดฆ่าปิดบัญชีแค้น

มือปืนโหด ควักปืน .357 กระหน่ำยิงหนุ่มรับทำเฟอร์นิเจอร์ 5 นัดระยะเผาขน ดับสยองคาร้านในพื้นที่ จ.ตรัง ค้นตัวเจอยาบ้าซุกกางเกงใน 30 เม็ด ตร.มุ่งประเด็นฆ่าปิดบัญชีแค้น และหักหลังธุรกิจไม่เปิดเผย ...

เมื่อเวลา 16.30 น. วันที่ 18 มิ.ย. พ.ต.ท.สมพงษ์ ปานเหลือง สารวัตรเวร สภ.วังวิเศษ อ.วังวิเศษ จ.ตรัง รับแจ้งเหตุมีคนถูกยิงตายหน้าบ้านเลขที่ 1 ม.6 ต.อ่าวตง หลังรับแจ้งจึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ พร้อมด้วย พ.ต.อ.นุกูล ไกรทอง รอง ผบก.ภ.จว.ตรัง พ.ต.ท.วิรัช อ่วมอารีย์ ผกก.สภ.วังวิเศษ พ.ต.ต.ณรงค์ แสนเกื้อ สว.สส.พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสยามรวมใจหลวงปู่อินทร์ อ.วังวิเศษ รุดไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ท่ามกลางสวนยางพาราล้อมรอบ บริเวณหน้าบ้านพบไม้ท่อนซุงขนาดใหญ่และรากไม้เก่าแก่วางกองอยู่เกลื่อนเต็มหน้าบ้าน มีไว้สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ขาย พบร่างผู้ตายทราบชื่อ นายนิกร หรือดำ รามรินทร์ อายุ 35 ปี เจ้าของบ้าน สภาพศพนอนคว่ำหน้าจมกองเลือด มีบาดแผลถูกจ่อยิงด้วยอาวุธปืนพกสั้น ขนาด.357 เข้าที่ บริเวณหัวคิ้วซ้าย เบ้าตาซ้าย หน้าอกซ้าย มือซ้าย และหน้าท้อง รวมจำนวน 5 นัด ตรวจสอบในที่เกิดเหตุพบปลอกกระสุนปืนชนิดเดียวกันตกอยู่ จำนวน 3 ปลอก ก่อนนำศพไปชันสูตรศพอย่างละเอียดอีกครั้งที่ รพ.วังวิเศษ ซึ่งเจ้าหน้าที่พบยาบ้า จำนวน 30 เม็ด บรรจุห่อพันสก๊อตเทปสีดำซุกไว้ในกางเกงใน จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานเพื่อประกอบคดี

สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุผู้ตายนั่งทำเฟอร์นิเจอร์อยู่บนเก้าอี้หน้าบ้าน ระหว่างนั้นคนร้ายจำนวน 1 คน ทราบชื่อภายหลัง คือนายอนุชิต ชูดำ อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 79 ม.7 ต.ร่มเมือง อ.เมือง จ.พัทลุง ได้ขี่รถ จยย.ฮอนด้า ไม่ทราบสี และหมายเลขทะเบียน ทราบว่าทั้งสองเป็นคู่อริกันและได้มีปากเสียงกันมาแล้วถึง 3 ครั้ง ระหว่างที่นายอนุชิต ได้ขับรถมาจอดตรงที่เกิดเหตุ ได้ตะโกนถามผู้ตายว่า ไม่คิดถึงกันบ้างหรือ “หลวงดำ” ก่อนลงจากรถชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำจ่อยิงโหดเหี้ยมไม่ยั้งมือ 5 นัดซ้อนในระยะเผาขนสิ้นใจตายคาที่ หลังก่อเหตุมือลั่นไกรีบบึ่งรถขี่หลบหนีไป เจ้าหน้าที่พยายามวิทยุสกัดตามเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี แต่ไร้วี่แวว ส่วนสาเหตุสันนิษฐานว่า คนร้ายน่าจะตามมาเพื่อปิดบัญชีแค้น และหักหลังธุรกิจไม่เปิดเผย ซึ่งเจ้าหน้าที่ ตร.จะเร่งสืบสวนเพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน เสนออนุมัติขอหมายจับต่อศาลจังหวัดตรัง จับกุมตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.

ข่าว