ผัวเก่าแค้น อดีตเมียไม่คืนดี ยิงดับ5โคม่า3

สามีเก่าโหดแค้นอดีตเมียไม่ยอมคืนดี แบกปืนยิงถล่มถึงบ้านที่นครปฐมช่วงเช้ามืด เพื่อนบ้านได้ยินเสียงปืนหลายนัดออกมาดูโดนยิงไปด้วย ผลสุดท้ายมีผู้เสียชีวิตถึง 5 รายบาดเจ็บ 3 เผยเคยขู่จะมาฆ่าล้างโคตร แต่ไม่มีใครเชื่อ...

เมื่อเวลา 04.30 น. วันที่ 20 มิ.ย. พ.ต.ท.บุญลือ ดอกบัว สว.เวร สภ.กำแพงแสน จ.นครปฐม รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิต และได้รับบาดเจ็บหลายราย เหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 106 ม.7 ต.ห้วยขวาง อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม จึงรายงานให้ พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รอง ผบช.ภ.7 พ.ต.อ.ฐายุฎฐ์ จันทร์ถาวร ผกก. พ.ต.ท.เด่นชัย อินทร์จักร รอง ผกก.ป. พ.ต.ท.ประทีป พันธ์หว้า รอง ผกก.สส. พ.ต.ท.ทศพล ทองเฉลิม สว.สส.แพทย์เวร รพ.กำแพงแสน มูลนิธิสุขศาลานุเคราะห์ ร่วมเดินทางไปตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุอยู่ห่างจากถนนมาลัยแมน 100 เมตร เป็นถนนซอย เป็นบ้านเดี่ยวปูนชั้นเดียวปลูกติดกัน 4-5 หลัง บ้านเกิดเหตุอยู่ด้านหน้าหลังแรก พบศพนางลำดวน แซ่ลิ้ม อายุ 55 ปี อยู่บ้านเลขที่ 107 หมู่ 7 ต.ห้วยขวาง นอนเสียชีวิตอยู่ห่างจากประตูบ้าน 5 เมตร ในสภาพนอนหงายสวมเสื้อยืดสีแดง กางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน สวมรองเท้าแตะฟองน้ำสีดำ นอนจมกองเลือดถูกกระสุนปืนยิงเข้าที่ไหล่ซ้ายทะลุราวนมด้านขวา และขมับด้านซ้ายทะลุแก้มด้านขวา ที่เกิดเหตุยังพบปลอกกระสุนปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่ 2 ปลอก ส่วนที่ประตูไม้ด้านหน้าทางเข้าบ้าน มีคราบรอยเท้าเปื้อนดินติดอยู่ที่กลางประตู จนบานประตูอ้ากลอนด้านในฉีกหลุด เมื่อเข้าไปภายในบ้านพบว่ามีห้องนอน 2 ห้อง ห้องนอนด้านหน้าติดประตู และห้องนอนตรงกันข้ามมีทางเดินอยู่ตรงกลาง ด้านหลังเป็นห้องน้ำ ทั้ง 2 ห้องนอนประตูเปิดอ้าอยู่มีเลือดสาดเต็มทั้ง 2 ห้อง

ในห้องนอนติดประตู มีมุ้งกางอยู่ปูด้วยฟูก มุ้งถูกตลบขึ้นมีคราบเลือดเต็มที่นอน มีคนเจ็บถึง 4 คนที่นอนอยู่ภายในมุ้งนอน คือนายเซ้ง ทิมทัพ อายุ 84 ปี เจ้าของบ้าน นางสำเริง อะระกุล อายุ 54 ปี ภรรยา ได้รับบาดเจ็บถูกยิงที่แขนและขาซ้าย ด.ช.อนุชา ห้วยหงส์ทอง อายุ 9 ขวบ ด.ญ.วรนันท์ ทิมทัพ อายุ 2 ขวบ ส่วนห้องนอนฝั่งตรงข้าม ภายในห้องพบ น.ส.วันดี ทิมทัพ อายุ 35 ปี กำลังตั้งท้องได้ 3 เดือน เป็นบุตรสาวของนายเซ้ง และนางสำเริง นอนแน่นิ่งอยู่ในห้องจากการถูกซ้อมได้รับบาดเจ็บสาหัส และที่ห้องน้ำด้านหลังบ้านยังพบ ด.ช.พิสิษฐ์ ด่านน้อย อายุ 9 ขวบ เป็นหลานนอนแน่นิ่งอยู่ในห้องน้ำ ถูกกระสุนปืน เลือดหยดเต็มบ้าน ที่ด้านข้างบ้านยังพบ น.ส.ปัญญา สามัญ อายุ 30 ปี เพื่อนบ้านซึ่งท้อง 8 เดือน นั่งอยู่โต๊ะม้าหินนอน ถูกยิงเข้าที่ขาขวา นอนฟุบร้องโอดโอย ทั้งหมดชาวบ้านช่วยกันนำส่ง รพ.กำแพงแสน จ.นครปฐม

ต่อมาทราบว่า นายเซ้ง ทิมทัพ, ด.ช.อนุชา ห้วยหงส์ทอง, ด.ญ.วรนันท์ ทิมทัพ และ ด.ช.พิสิษฐ์ ด่านน้อย ซึ่งทั้ง 4 เสียชีวิตระหว่างนำส่ง รพ.และเสียชีวิตที่ รพ.กำแพงแสน

จากการสอบถามผู้เห็นเหตุการณ์ เผยว่า ก่อนเกิดเหตุ เห็นชายจำได้ว่าเป็นอดีตสามีของ น.ส.วันดี ทิมทัพ ชื่อนายณัฐวัตร สาลี อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 28 ซอยฉลองกรุง 27 ต.ลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กทม. ขับรถกระบะอีซูซุ สีบรอนซ์ทอง จำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ มาจอดอยู่ด้านหน้าถนนซอยห่างจากบ้าน 50 เมตร เดินลงจากรถถือปืนมาที่บ้านเกิดเหตุ ตะโกนเรียกให้คนในบ้านเปิดประตู แต่ไม่มีใครเปิดประตู จึงใช้เท้าถีบประตูจนเสียงดังเมื่อประตูด้านหน้าบ้านเปิด นายณัฐวัตร ก็เดินเข้าไปในบ้านจากนั้นก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัดสนั่นหวั่นไหว นางลำดวน ที่บ้านอยู่ด้านหลังติดกัน ได้ยินเสียงปืนได้วิ่งมาดูว่ามีเหตุอะไร เป็นจังหวะเดียวกับที่นายณัฐวัตร เดินถือปืนออกมาจากบ้านเมื่อเจอนางลำดวน ก็เลยยิงเข้าใส่อีกจนล้มกลิ้งลงหน้าบ้าน น.ส.ปัญญา ที่ท้อง 8 เดือน ก็เดินออกจากบ้านด้านหลังมาดูนายณัฐวัตร เห็นก็ยิงเข้าใส่อีก 1 นัดถูกเข้าที่ขาล้มฟุบอีกคน ก่อนที่จะวิ่งไปขึ้นรถขับหลบหนีไป ตร.จึงบันทึกปากคำไว้

จากนั้น พล.ต.ต.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ได้เดินทางไปสอบสวนผู้บาดเจ็บที่ รพ.กำแพงแสน เพื่อเยี่ยมดูอาการ ผู้บาดเจ็บ ซึ่งมี น.ส.วันดี บาดเจ็บเล็กน้อยถูกตบที่ใบหน้าและถูกมือปืนเหยียบที่หน้าอก ให้การว่า คนที่ก่อเหตุยิงคือนายณัฐวัตร อดีตสามีเก่าที่เลิกรากันไปได้ 3 ปี อดีตนายณัฐวัตรทำงานรับเหมาก่อสร้าง อยู่ใน กทม. ส่วนตนเองเป็นลูกจ้างและเกิดมีสัมพันธ์กันถึงขั้นนายณัฐวัตรเลี้ยงดู แต่เนื่องจากนายณัฐวัตรนั้นมีนิสัยหึงหวงใครมาหาก็ไม่ได้พูดคุยกับใครก็ไม่ได้ ทำให้ต้องเลิกรากันไป หลังจากเลิกกันแล้วตนเองก็หนีมาอยู่บ้านที่กำแพงแสน นายณัฐวัตร ก็ตามมาง้อจะขอคืนดีให้กลับไปอยู่กินกันเหมือนเดิม หลายครั้งแต่ก็ถูกปฏิเสธไป จนกระทั่งตนเองได้คบกับนายกระต่าย เกษมจิต อายุ 27 ปี ทำงานอยู่บริษัทแห่งหนึ่งใน กทม.ซึ่งอยู่กินกันมาทุกวันนี้ จนมีบุตรด้วยกัน 1 คน คือ ด.ญ.วรนันท์ ทิมทัพ อายุ 2 ขวบ แต่นายณัฐวัตร ก็ยังมาตามตื๊อขอคืนดี มาคุยกับพ่อและแม่ แต่ก็ถูกปฏิเสธไปทุกครั้ง เพราะมีลูกแล้วขออยู่กับสามีใหม่ทำให้นายณัฐวัตร โกรธและกล่าวคำอาฆาตว่าหากไม่ยอมมาอยู่ด้วยจะมาฆ่าทั้งตระกูล ซึ่งตนเองก็นึกว่านายณัฐวัตรขู่จึงไม่สนใจอะไร จนมาเกิดเหตุบุกยิงครั้งนี้

หลังจากที่สอบปากคำแล้ว พล.ต.ต.โสภณ รอง ผบช.ภ.7 ได้สั่งให้ พ.ต.อ.ฐายุฎฐ์ จันทร์ถาวร ผกก.สภ.กำแพงแสน สอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง และให้นำสำนวนเสนอศาล จ.นครปฐม ออกหมายจับตัวนายณัฐวัตร พร้อมกับส่งชุดสืบสวนออกตามล่าตัว โดยเน้นย้ำ ตร.ว่าคนร้ายมีอาวุธปืนซึ่งสามารถยิง ตร.ได้ตลอดเวลา หากเจอตัวมีการต่อสู้ก็ให้ป้องกันตัวได้.

ข่าว